ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ศึกโตโยต้า ไทยลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งคว้าสิทธิ์ไปเล่นในรอบคัดเลือกของรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2019 เดินหน้าเตรียมทีมทันทีด้วยการคว้าตัว 3 นักเตะดีกรีทีมชาติไทย ทริสตอง โด และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีม หลังจากจบฤดูกาล 2018 ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ไทยลีก พร้อมคว้าสิทธิ์ไปเล่นในรอบคัดเลือกของศึกฟุตบอลถ้วยระดับเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ทำให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่รอช้า ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าในตลาดนักเตะทันที พร้อมกับสร้างความฮือฮาด้วยการดึงสามแข้งบิ๊กเนมมาร่วมทีม ประกอบไปด้วย ทริสตอง โด และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา สองแบ็คขวา-ซ้าย จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ปีกตัวจี๊ดจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
โดยในช่วงสายที่ผ่านมา (24 ต.ค.) ทีมแข้งเทพได้มีการเปิดตัว 3 แข้งใหม่ต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกที่ห้องออดิทอเรียม อาคารทรูทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก ท่ามกลางนักข่าวที่มาทำข่าวกันอย่างคึกคักร่วมร้อยชีวิต โดยมี คุณขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรให้เกียรติมาร่วมงานแถลงข่าวด้วยตัวเอง ด้านบิ๊กบอสของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า จากการที่ทีมได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบคัดเลือกของรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งถือเป็นฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียนั้น ทำให้ผู้บริหารและสตาฟฟ์โค้ชได้มีการหารือเรื่องตัวผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ เพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมลงเล่นในรายการดังกล่าว จากนั้นสโมสรจึงได้เจรจากับต้นสังกัดของนักเตะอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งก็ต้องขอบคุณทั้งสองสโมสรที่ยอมปล่อยผู้เล่นทั้งสามคนมาร่วมทีม คุณขจรยังกล่าวต่ออีกว่า นอกเหนือจากการผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มศึกเอซีแอลในปีหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกแล้ว การสู้ศึกไทยลีกก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของทีมเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ตนเองเข้ามารับหน้าที่ประธานสโมสรในปี 2013 ทีมสามารถตำแหน่งรองแชมป์ได้สองครั้งด้วยกัน ซึ่งในฤดูกาลหน้าถึงเวลาแล้วที่ทีมจะต้องคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาประดับสโมสรให้ได้
ทางด้าน ทริสตอง โด เจ้าของเบอร์ 7 คนใหม่ เผยว่า การย้ายมาร่วมทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตการค้าแข้งของเขา ซึ่งเขาเองอยากมีส่วนร่วมในการพาทีมคว้าแชมป์มาครองให้ได้ หลังจากที่ทำสำเร็จกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาแล้ว
ในขณะที่ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็คซ้ายจอมบุกก็เชื่อมั่นว่าตัวเขาเองจะสามารถเรียกฟอร์มกลับมาได้ และพร้อมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขามีดีพอที่จะมีชื่อกลับไปติดทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากไม่มีชื่อในชุดลุยศึกซูซูกิ คัพ 2018
ส่วน อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ เป็นดีลที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุด หลังจากที่ในเลกสองของฤดูกาลที่ผ่านมาเขาย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปเล่นให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี แบบยืมตัว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เตรียมลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ แต่สุดท้ายเป็น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่คว้าตัวเขามาร่วมทีมในที่สุด
สำหรับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะกลับมาเริ่มต้นปรีซีซั่นฤดูกาลใหม่ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ โดยมีโปรแกรมลงเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกในวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยจะได้เล่นในรังเหย้าที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และถ้าหากชนะจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟในวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยจะเป็นการไปเยือนสโมสรของประเทศจีนหรือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถ้าหากสามารถบุกไปเอาชนะได้จึงจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มของศึกฟุตบอลรายการที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย