สำหรับ “นนท์” นิติพงษ์ เสลานนท์ ฟูลแบ็ควัย 29 ปี เติบโตจากอะคาเดมี่ของ ชลบุรี เอฟซี ก่อนย้ายไปร่วมทัพ สระบุรี เอฟซี ในรูปแบบยืมตัวในยุคที่มี “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน เป็นกุนซือ หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเขาจึงถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2014 จากนั้นจึงถูกปล่อยยืมไปที่ การท่าเรือ เอฟซี ในฤดูกาล 2015 และทำผลงานได้เข้าตาจึงถูกทีม “สิงห์เจ้าท่า” คว้าตัวไปร่วมทีมแบบถาวร โดยเขาลงสนามให้ทีมดังย่านคลองเตยไปมากกว่า 100 นัด จนมาถึงเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ยุติสัญญากับทีมและย้ายไปร่วมทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในช่วงเลกสอง โดยลงเล่นให้กว่างโซ้งมหาภัยไปทั้งหมด 13 นัด
ในส่วนของผลงานในนามทีมชาติ นนท์ติดธงเป็นครั้งแรกกับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชุดเดียวกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา เมื่อปี 2011 และผ่านการติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วหลายนัด โดยเขาสามารถยึดแหน่งแบ็คขวาตัวจริงได้ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในนัดที่ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 เมื่อเดือนตุลาคม 2019 ภายใต้การคุมทัพของอดีตกุนซือชาวญี่ปุ่น อากิระ นิชิโนะ
โดย นิติพงษ์ เผยความรู้สึกหลังจากเซ็นสัญญาเข้าร่วมทัพแข้งเทพว่า “รู้สึกดีใจมากครับที่ได้ย้ายมาร่วมทีมทรู แบงค็อกฯ เพราะเคยมีโอกาสได้รับรู้เรื่องราวของสโมสรแห่งนี้จากเพื่อนๆหลายคน ทำให้มีความรู้สึกอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้ เมื่อได้มาอยู่ที่นี่แล้วก็ดีใจมากๆครับ”
“ผมมองว่าสโมสรแห่งนี้ต้องการความสำเร็จ และตัวผมเองก็ยังกระหายความสำเร็จกับการเล่นในไทยลีก ผมย้ายมาที่นี่เพื่อต่อสู้และแย่งตำแหน่งตัวจริง จึงอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม รวมถึงช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในอนาคตครับ” นนท์กล่าวปิดท้าย
นิติพงษ์ ถือเป็นการเสริมทัพนักเตะรายที่สองของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต่อจาก รัชนาท อรัญญไพโรจน์ เพื่อเตรียมความพร้อมลุยศึกไทยลีกฤดูกาลหน้า ซึ่งจะเริ่มการแข่งขันนัดแรกในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ โดยนนท์จะสวมเสื้อหลายเลข 13 ลงสนามให้กับ “แข้งเทพ” ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับที่เขาใส่ลงสนามให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่เมื่อปี 2019
#TrueBangkokUnited #TrueBUFC #WelcomeNitipong #Nitipong13